การศึกษาชนิด randomized double-blinded placebo-paralleled ซึ่งเป็นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน sulfonylureas อย่างเดียวแล้วไม่ได้ผล จำนวน 69 คน โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำนวน 46 คน เป็นชาย 25คน หญิง 21 คน มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 54.5 ± 7.2 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับสารซาโปนินจากเมล็ดลูกซัด ซึ่งบรรจุในรูปแคปซูล (0.35 กรัม/เม็ด ซึ่ง 1 กรัมของผงยาเท่ากับ 16 กรัม ของ crude drug) ให้รับประทานครั้งละ 6 แคปซูล หลังอาหารวันละ 3 ครั้ง ร่วมกับยา sulfonylureas กลุ่มที่ 2 จำนวน 23 คน เป็นกลุ่มควบคุม เป็นชาย 13 คน หญิง 10 คน มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 53.7 ± 6.8 ปี ให้รับประทานยาหลอก ครั้งละ 6 แคปซูล หลังอาหารวันละ 3 ครั้ง เช่นกัน นาน 12 สัปดาห์ ก่อนและหลังการทดลองมีการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด (Fasting blood glucose : FBG) ระดับน้ำตาลในเลือดหลังรับประทานอาหารไปแล้ว 2 ชม. (2 h post prandial blood glucose : 2 h PBG) ระดับความเข้มข้นของฮีโมโกลบินเพื่อดูระดับน้ำตาลในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (glycosylated hemoglobin (HbA1c) ค่าชีวเคมีในเลือดเพื่อดูการทำงานของตับ (alanine aminotranferase (ALT), aspartate aminotranferase (AST)) การทำงานของไต (blood urea nitrogen (BUN) และ creatinine), body mass index (BMI) และอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคเบาหวาน (Clinical symptomatic quantitative scores : CSQS) เช่น อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ดื่มน้ำมากผิดปกติ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย เป็นต้น ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่รักษาด้วยยาแคปซูลเมล็ดลูกซัดได้ผลดีถึง 80.43% เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (43.48%) โดยที่ระดับ FBG, 2 h PBG, HbA1c และ CSQS หลังการทดลองลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการทดลอง ในขณะที่กลุ่มควบคุมไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ ส่วนระดับ ALT, AST, BUN, creatinine ในเลือด และ BMI ก่อนและหลังการทดลองของทั้ง 2 กลุ่ม ไม่มีความแตกต่างกัน ซึ่งจากการศึกษานี้สรุปได้ว่าการใช้ยาแคปซูลผงเมล็ดลูกซัดร่วมกับยา sulfonylureas มีผลลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยให้อาการต่างๆ ของโรคเบาหวานดีขึ้นในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รักษาด้วย sulfonylureas อย่างเดียวแล้วไม่ได้ผล
Chin J Integr Med 2008;14(1):56-60