การศึกษาแบบสุ่ม ปกปิดทั้งสองข้าง และข้ามกลุ่ม (randomized, double-blind, controlled crossover trial) ในผู้ที่มีภาวะอ้วนลงพุง (metabolic syndrome) ทั้งชายและหญิง จำนวน 33 คน อายุเฉลี่ย 53±13 ปี น้ำหนักเฉลี่ย 86±10.5 กก. ดัชนีมวลกาย 33±3 กก./ตรม. แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ได้รับผงสตรอว์เบอร์รีซึ่งผ่านการทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง (freeze-dried strawberry powder) ขนาดต่ำ 13 ก./วัน (ได้รับพลังงาน 123 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 28 ก. เส้นใยอาหาร 2 ก. วิตามินซี 26 ก. สารโพลีฟีนอลรวม 400 มก. และสารแอนโทไซยานินรวม 38 มก.) กลุ่มที่ 2 ได้รับผงสตรอว์เบอร์รีแห้งขนาดสูง 32 ก./วัน (ได้รับพลังงาน 124 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 27 ก. เส้นใยอาหาร 5 ก. วิตามินซี 65 ก. สารโพลีฟีนอลรวม 960 มก. และสารแอนโทไซยานินรวม 92 มก.) กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มควบคุมได้รับผงแห้งที่มีกลิ่นสตรอว์เบอร์รี แต่ไม่มีสารโพลีฟีนอล ศึกษาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ จากนั้นทำการสลับเปลี่ยนกลุ่มโดยมีช่วงพัก 1 สัปดาห์ พบว่าการรับประทานสตรอว์เบอร์รีทั้งในขนาดสูงและต่ำไม่มีผลต่อระดับไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอลชนิด HDL และระดับน้ำตาลในเลือด ไม่มีผลต่อความดันโลหิต น้ำหนักตัว และความยาวรอบเอว เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเริ่มต้น (baseline) แต่กลุ่มที่ได้รับผงสตรอว์เบอร์รีแห้งขนาดสูงมีผลทำให้ระดับของอินซูลิน และค่า HOMA-IR ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะดื้ออินซูลินในเลือดลดลง และลดระดับของกรดอะมิโนที่โครงสร้างโมเลกุลมีกิ่งก้าน (branched-chain amino acid) ได้แก่ valine และ leucine ซึ่งพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับเบาหวานและโรคอ้วน นอกจากนี้ยังมีผลเพิ่มระดับของ phosphate, benzoic acid และ hydroxyphenyl propionic acid ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญพลังงาน ลดการทำงานผิดปกติของเยื่อบุผนังหลอดเลือด และลดความดันเลือด จากการศึกษาสรุปได้ว่า การรับประทานผงสตรอว์เบอร์รีแห้งขนาดสูง 32 ก./วัน นาน 4 สัปดาห์ เป็นอาหารเสริม มีประโยชน์และช่วยลดความผิดปกติของระบบเมแทบอลิซึมในร่างกายและลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ที่มีภาวะอ้วนลงพุงได้
* cardiometabolic คือ กลุ่มอาการที่มีระบบเมแทบอลิซึมในร่างกายผิดปกติร่วมกับการมีความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด