ข่าวความเคลื่อนไหวสมุนไพร

การทดสอบฤทธิ์ต้านภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากแอลกอฮอล์ (Non-alcoholic fatty liver disease; NAFLD) ของหัวบัวหิมะ (Smallanthus sonchifolius) ในหนูแรทจำนวน 24 ตัว โดยหนู 6 ตัวจะได้รับอาหารมาตรฐาน (กลุ่มควบคุม; CD) และหนู 18 ตัว จะได้รับอาหารมาตรฐานร่วมกับสารละลายน้ำตาลฟรุกโตสความเข้มข้น 10% (กลุ่มได้รับ high-fructose diet; FD) หลังจากนั้น 20 สัปดาห์ กลุ่ม FD จะถูกสุ่มแยกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ตัว กลุ่มที่ 1 ไม่ได้รับสารทดสอบใด ๆ, กลุ่มที่ 2 ได้รับแป้งจากหัวบัวหิมะ (yacon flour) ที่มี fructooligosaccharides ขนาด 340 ก./นน.ตัว 1 กก./วัน และกลุ่มที่ 3 ได้รับยาลดไขมันมาตรฐาน fenofibrate ขนาด 30 ก./นน.ตัว 1 กก./วัน ทำการทดสอบนาน 16 สัปดาห์ พบว่าแป้งจากหัวบัวหิมะทำให้การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัว (body weight gain), ระดับไขมันในเลือด (plasma lipid levels) และการทำงานของเอนไซม์ transaminase ลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ รวมทั้งทำให้การตอบสนองต่อ insulin ดีขึ้น ผลการวิเคราะห์เนื้อเยื่อตับพบว่า แป้งจากหัวบัวหิมะช่วยยับยั้งการสะสมไขมัน (steatosis) ภายในตับ ช่วยลดการอักเสบ และลดการสะสม collagen (collagen deposition) ภายในตับ 64% นอกจากนี้ แป้งจากหัวบัวหิมะยังทำให้การแสดงออกของ TGF-β1 mRNA ลดลง 78% ส่งผลให้ nuclear localization ของ p-Smad2/3 ลดลง (สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ) รวมทั้งทำให้การแสดงออกของ α-smooth muscle actin (α-SMA), Col1α1, และ Col3α1 mRNAs ลดลง 85%, 44% และ 47% ตามลำดับ ส่งผลให้เกิดการยับยั้งการทำงานของ resident hepatic stellate cells (สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ) และแป้งจากหัวบัวหิมะยังให้ผลในการลดไขมันได้ดีกว่ายามาตรฐานในขนาดที่ทำการทดสอบ จากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า แป้งจากหัวบัวหิมะสามารถบรรเทาภาวะไขมันพอกตับที่เกิดจากการกินอาหารที่มีน้ำตาลฟรุกโตสสูงได้ ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการรักษาภาวะไขมันพอกตับที่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากแอลกอฮอล์