การศึกษาทางคลินิกผลของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นต่อการต้านอนุมูลอิสระในผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์

การศึกษาทางคลินิกในผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ (non-alcoholic fatty liver disease) จำนวน 50 คน อายุ 20-60 ปี มีค่า BMI อยู่ระหว่าง 25-35 กก./ตร.ม. โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มละ 25 คน กลุ่มทดสอบให้รับประทานยาเม็ดสารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Vitis vinifera; Grape) วันละ 2 เม็ด (1 เม็ด ประกอบด้วยสาร proanthocyanidins 250 มก.) เป็นระยะเวลา 2 เดือน เปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ให้ยาหลอก ทำการประเมินผลด้วยแบบสอบถามและประเมินค่าเกี่ยวกับการต้านอนุมูลอิสระ ความสามารถต้านอนุมูลอิสระโดยรวม (total antioxidant capacity; TAC) malondialdehyde (MDA), superoxide dismutase (SOD), glutathione peroxidase (GPx), catalase (CAT) และ interleukin-6 (IL-6) ในช่วงก่อนและหลังการทดสอบ พบว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีผลลดระดับของ IL-6 และ MDA ได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (3.14±1.43 พิโคกรัม/มล. ต่อ 2.80±0.31 พิโคกรัม/มล.; 4.16±2.09 ไมโครโมลาร์ ต่อ 4.59±1.19 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ, p<0.05) และเพิ่มระดับของ TAC, SOD และ GPx ได้ดีกว่า (0.18±0.08 มิลลิโมลาร์ ต่อ -0.03±0.09 มิลลิโมลาร์; 10.5±6.69 U/ml ต่อ 8.93±1.63 U/ml; 14.7±13.4 U/ml ต่อ 8.24±3.03 U/ml ตามลำดับ, p<0.05) และจากการตอบแบบสอบถามพบว่ากลุ่มที่ได้รับสารสกัดเมล็ดองุ่นมีผลต่อการฟื้นฟูเกี่ยวกับข้อจำกัดทางกายภาพ สุขภาพทั่วไป และภาวะความพร้อมสมบูรณ์ทางกาย เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (17.0±42.0 ต่อ -12.0±37.5; 3.80±14.8 ต่อ -3.92±9.55; 5.08 5.26 ต่อ -7.01±13.7 ตามลำดับ, p<0.05) จากผลการทดสอบนักวิจัยสรุปว่าสารสกัดจากเมล็ดองุ่นมีผลต่อการต้านอนุมูลอิสระในผู้ป่วยโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ได้

Int J Vitam Nutr Res. 2024;94(5-6):365-376. doi: 10.1024/0300-9831/a000805.