การศึกษาในหนูแรทที่เหนี่ยวนำให้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการฉีดสาร 1,2-dimethylhydrazine ขนาด 40 มก./กก. เข้าทางช่องท้อง สัปดาห์ละ 1 ครั้ง นาน 10 สัปดาห์ และให้กินอาหารที่มีไขมันสูงนาน 20 สัปดาห์ จากนั้นแบ่งหนูเป็น กลุ่มที่ป้อนสารสกัด 95% เอทานอลของฟ้าทะลายโจรทั้งต้น ขนาด 125, 250 และ 500 มก./กก. นาน 20 สัปดาห์ กลุ่มที่ได้รับยาต้านมะเร็ง fluorouracil (5-FU) ขนาด 35 มก./กก. โดยการฉีดเข้าทางช่องท้อง วันละ 2 ครั้ง นาน 20 สัปดาห์ และกลุ่มควบคุม หลังสิ้นสุดการศึกษาพบว่า สารสกัดฟ้าทะลายโจรทั้ง 3 ขนาด มีผลทำให้จำนวนเซลล์ลำไส้ใหญ่ที่ผิดปกติ (aberrant crypt foci) ลดลง 16, 19 และ 32% ตามลำดับ โดยสารสกัดที่ขนาด 500 มก./กก. มีฤทธิ์ดีกว่ายา fluorouracil ซึ่งสามารถลดจำนวนเซลล์ได้ 13% นอกจากนี้สารสกัดยังมีผลลดขนาดของเซลล์ไขมัน (adipocyte) ลดระดับของอินซูลินและ เลปตินในเลือด เมื่อวิเคราะห์สารสำคัญหลักที่พบในสารสกัดฟ้าทะลายโจร พบว่าประกอบด้วยสาร 12S-hydroxyandrographolide, genistein-7,4'-di-O-β-D-glucoside, 19β-glucosyl-14-deoxy-11,12-didehydroandrographoside, 10-hydroxyligustroside, 19β-glucosyl-14-deoxyandrographoside และ 3,4-O-dicaffeoylquinic acid จากการศึกษาสรุปได้ว่า สารสกัดจากฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่ในหนูแรทที่เหนี่ยวนำให้เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ และยังมีผลลดไขมันและลดความอ้วนด้วย
Int J Mol Sci. 2023;24:5224. doi: 10.3390/ijms24065224