การศึกษาประสิทธิภาพการรักษาโรคสะเก็ดเงินของสารสกัดว่านหางจระเข้ เปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน (tazarotene) ในหนูแรทที่ผิวหนังบริเวณส่วนหางเป็นโรคสะเก็ดเงิน ในการทดลองแบ่งหนูออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ตัว กลุ่มที่ 1 ให้เป็นกลุ่มควบคุม โดยไม่ทายาชนิดใดๆ กลุ่มที่ 2 ทาผิวหนังบริเวณที่เป็นโรคสะเก็ดเงินด้วยยา tazarotene gel (0.1%) วันละครั้ง และกลุ่มที่ 3 ทาด้วยสารสกัดว่านหางจระเข้ที่ได้จากการสกัดเจลในส่วนใบด้วยเอธานอล 95% วันละครั้ง นาน 14 วัน ประเมินสภาพผิวหนังของหนูด้วยเทคนิคทางจุลพยาธิวิทยา (hisopathological evaluation) ผลจากการทดลองพบว่า ค่าความหนาของหนังกำพร้าชั้นบนสุด (degree of orthokeratosis) ของหนู 3 กลุ่ม มีค่าเท่ากับ 17.30±4.09 90.03±2.00 และ 85.07±3.36 ตามลำดับ สภาพผิวหนังของหนูกลุ่มที่ 2 และ 3 ดีขึ้นคิดเป็น 87.94 และ81.95 เมื่อเทียบกับหนูกลุ่มที่ 1 ผลการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสารสกัดเอธานอลว่านหางจระเข้สามารถรักษาโรคสะเก็ดเงิน และมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับยา tazarotene
Phytother Res. 2012; 26(4): 617-9