ฤทธิ์ปกป้องผิวและป้องกันความแก่ของผิวหนังของครีมเปปไทด์ข้าว

การศึกษาประสิทธิภาพของครีมบำรุงผิวเปปไทด์ข้าว (hydrolyzed rice protein: rice peptide) ในการปกป้องผิวและป้องกันความแก่ของผิวหนังจากการได้รับแสงอัลตร้าไวโอเลต ทำการศึกษาแบบ double-blind, randomized placebo-controlled clinical ในอาสาสมัครเพศหญิง อายุ 20-30 ปี ที่มีสีผิวระกับ II-III ตามเกณฑ์ของ Fitzpatrick มีฝ้าแดดบนใบหน้า และไม่ทาครีมกันแดดเป็นประจำ จำนวน 60 ราย แบ่งอาสาสมัครออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 กลุ่มควบคุม (ครีมเบส) กลุ่มที่ 2 กลุ่มครีมวิตามินซี (ascorbyl tetraisopalmitate) 2% และเปปไทด์ข้าว 4% (ไม่ระบุที่มาของวัตถุดิบและขนาดที่ใช้) กลุ่มที่ 3 กลุ่มครีมเปปไทด์ข้าว 4% และกลุ่มที่ 4 กลุ่มครีมวิตามินซี 2% กำหนดให้อาสาสมัครทาครีม วันละ 1 ครั้ง ในช่วงกลางคืน และการใช้ครีมกันแดดในช่วงเวลากลางวัน ติดต่อกัน 90 วัน การประเมินการเปลี่ยนแปลงสุขภาพผิวและการถ่ายภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังการทดสอบ พบว่าตำรับครีมทดสอบช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว เพิ่มปริมาณน้ำในผิวหนังชั้นสตราตัมคอร์เนียม (stratum corneum water content) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อใช้ครีมครบ 90 วัน ค่าความสามารถในการสะท้อนเสียงของผิวหนังมีค่าเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มที่ได้รับครีมทั้ง 3 ตำรับ บ่งถึงความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง โดยพบมากที่สุดในกลุ่มที่ 2, 3 และ 4 ตามลำดับ อย่างไรก็ตามไม่พบความแตกต่างของระดับไขมันในผิวหนัง (sebum content) ความยืดหยุ่น และความเรียบเนียนของผิวในอาสาสมัครทั้ง 4 กลุ่ม นอกจากนี้ครีมทดสอบทั้ง 3 ตำรับมีผลลดความเข้มของจุดสีผิวบนใบหน้าของอาสาสมัคร และช่วยกระตุ้นการสร้างชั้นผิวใหม่ โดยให้ผลดีที่สุดในกลุ่มที่ได้รับครีมวิตามินซีร่วมกับเปปไทด์ข้าว กลุ่มครีมเปปไทด์ข้าว และกลุ่มครีมวิตามินซี ตามลำดับ และไม่พบการเปลี่ยนแปลงนี้ในกลุ่มที่ได้รับครีมเบส การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าเปปไทด์ข้าวมีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว และลดความเสียหายของผิวจากการได้รับแสงอัลตร้าไวโอเลต และเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินซีจะให้ผลดีกว่าการใช้ในรูปแบบครีมเดี่ยว

Photochem Photobiol. 2021;97(4):805-15.