การศึกษาฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งมนุษย์ของสารสกัดเฮกเซน คลอโรฟอร์ม เอทิลอะซีเตต เมทานอล และน้ำจากใบและลำต้นของพญายอ (Clinacanthus nutans) โดยทดลองในเซลล์มะเร็งปอด (non-small cell lung cancer; A549) มะเร็งหลังโพรงจมูก (nasopharyngeal carcinoma epithelioid cell; CNE1) และมะเร็งตับ (liver cancer; HepG2) พบว่าสารสกัดเฮกเซนและคลอโรฟอร์ม ความเข้มข้น 25-200 มคก./มล. มีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้ทั้ง 3 ชนิด ส่วนสารสกัดเอทิลอะซีเตตที่ความเข้มข้น 300 มคก./มล. จะยับยั้งได้เฉพาะเซลล์มะเร็ง CNE1 ในขณะที่สารสกัดเมทานอลและสารสกัดน้ำไม่มีฤทธิ์ดังกล่าว เมื่อนำสารสกัดเฮกเซนซึ่งมีฤทธิ์ดีที่สุดมาทำการศึกษาต่อ พบว่ามีฤทธิ์ทำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งแบบ apoptosis และยังเพิ่มระดับของ reactive oxygen species (ROS) ในเซลล์มะเร็งทั้ง 3 ชนิดด้วย ซึ่งแสดงว่าการตายของเซลล์มะเร็งอาจเกิดจากการเหนี่ยวนำของภาวะเครียดออกซิเดชั่น (oxidative stress) นอกจากนี้สารสกัดเฮกเซนที่ความเข้มข้นสูง (มากกว่า 100 มคก./มล.) มีผลกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ caspase- 8, caspase-9 และ caspase-3/7 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกระบวนการตายของเซลล์แบบ apoptosis จากการวิเคราะห์หาสารสำคัญในสารสกัดเฮกเซนโดยใช้วิธี gas chromatography-mass spectrometry (GC-MS) พบสารสำคัญมากถึง 31 ชนิดซึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับฤทธิ์ที่ทำให้เซลล์มะเร็งตาย จะเห็นได้ว่าสารสกัดเฮกเซนมีฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งมนุษย์ทั้ง 3 ชนิดได้ดีที่สุดเมื่อเทียบกับสารสกัดอื่น และสรุปได้ว่าสารสกัดเฮกเซนจากพญายอทำให้เซลล์มะเร็งตายโดยภาวะเครียดออกซิเดชั่นซึ่งมีปริมาณ ROS ภายในเซลล์เพิ่มขึ้น และเหนี่ยวนำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็งแบบ apoptosis ผ่านทางการทำงานของเอนไซม์ caspase
Asian Pac J Cancer Prev 2017;18(4):917-26