ผลของน้ำมันปาล์มต่อระดับไขมันในคนสุขภาพดี

การศึกษาในนักศึกษาด้านการแพทย์ที่มีสุขภาพดี จำนวน 34 คน อายุเฉลี่ย 21.9 ± 1.76 ปี เป็นเพศหญิง 13 คน และเพศชาย 21 คน มีระดับไขมันในเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด และความดันเลือดปกติ ไม่ใช้ยาคุมกำเนิด สเตียรอยด์ ยาลดความดัน ยาลดน้ำตาลในเลือด และฮอร์โมน ไม่สูบบุหรี่ หรือดื่มอัลกอฮอล์น้อยกว่า 30 มล.ต่อมื้อในเพศชาย และ 15 มล.ต่อมื้อในเพศหญิง การทดลองแบ่งเป็น 3 ระยะ 2 สัปดาห์แรก เป็นช่วงเตรียมก่อนการทดลอง 2 สัปดาห์ต่อมาเป็นช่วงของการทดลอง และ 2 สัปดาห์สุดท้ายเป็นช่วงหยุดการทดลอง (washout period) ในระหว่าง 2 สัปดาห์ของการทดลอง ทุกคนจะต้องรับประทานน้ำมันปาล์มต้ม (180 ± 5 °C นาน 5 นาที) ซึ่งเป็นน้ำมันที่นิยมใช้รับประทานในอาหารทะเลของชาวบราซิล ขนาด 10 มล.ต่อวัน หลังอาหารกลางวันหรือเย็นทุกวัน และให้หลีกเลี่ยงอาหารอื่นที่มีน้ำมันปาล์มเป็นส่วนประกอบในระหว่างการทดลอง

ผลการศึกษาพบว่า หลังจาก 2 สัปดาห์ของการรับประทานน้ำมันปาล์ม ระดับไขมันในเลือดทุกตัวลดลง โดยเฉพาะระดับ very low density lipoprotein cholesterol (VLDL-C) และ triacylglycerol (Tg) ลดลง 11% ในช่วง 2 สัปดาห์หลังหยุดการทดลอง ระดับคอเลสเตอรอล และ low density lipoprotein cholesterol (LDL-C) จะกลับเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเริ่มต้นก่อนการทดลองระดับ LDL-C เพิ่มขึ้น > 2.03%, VLDL-C และ Tg เพิ่มขึ้น แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงเริ่มก่อนการทดลอง ส่วนระดับ high density lipoprotein cholesterol ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดการทดลอง เมื่อเปรียบเทียบระดับ ไขมันในแต่ละเพศ พบว่า ระดับไขมันทั้งหมดในเพศหญิงลดลงและกลับคืนสู่ระดับเริ่มต้นก่อนการทดลองในช่วง 2 สัปดาห์หลังจากหยุดการทดลอง ในเพศชายระดับไขมันจะลดลงเฉพาะ VLDL-C และ Tg แต่ LDL-C จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และในช่วง 2 สัปดาห์หลังจากหยุดการทดลอง ระดับ VLDL-C และ Tg จะยังคงต่ำกว่า แต่ LDL-C จะเพิ่มขึ้นสูงกว่าค่าในช่วงเริ่มต้นก่อนการทดลอง อาการข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการทดลอง ได้แก่ อาการคลื่นไส้ 32.4% และอุจจาระแหลวขึ้น (pasty stool) 23.5% เป็นต้น

Nutrition 2008;24:11-5