การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มไขว้สลับ (randomised, placebo-controlled crossover study) ถึงผลของการรับประทานน้ำบีทรูทที่มีไนเตรตสูงต่อดัชนีชี้วัดความเครียดออกซิเดชันและการอักเสบในผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูง จำนวน 15 คน (อายุ 56-71 ปี) โดยเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้รับน้ำบีทรูทที่มีไนเตรตสูง (~400 มก./ครั้ง) กับกลุ่มที่ได้รับน้ำบีทรูทที่กำจัดไนเตรตออก (ยาหลอก) ทั้งในช่วง 3 ชั่วโมงหลังการบริโภค (3H POST) และหลังบริโภคต่อเนื่องวันละ 2 ครั้ง เป็นเวลา 4 สัปดาห์ ประเมินผลด้วยการตรวจวัดระดับ nitrate และ nitrite (NOx), oxidised low density lipoprotein (oxLDL), F2-isoprostanes, protein carbonyls, oxidised (GSSG), reduced glutathione (GSH) ในพลาสม่า รวมถึงวัดระดับสารอักเสบ high-sensitive C-reactive protein (hsCRP), chemokines, cytokines, adhesion molecules ในเลือด ผลการทดสอบพบว่ากลุ่มที่ได้รับไนเตรตมีอัตราส่วนของ oxLDL/NOx ลดลง และอัตราส่วน GSH/GSSG ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสมดุลของปฏิกิริยารีดอกซ์ในร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มยาหลอก นอกจากนี้ยังพบว่าร้อยละของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดโมโนไซต์ (CD14+ และ CD16- ) ลดลงในกลุ่มยาหลอกมากกว่ากลุ่มไนเตรต อย่างไรก็ตามไม่พบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญของตัวชี้วัดของภาวะเครียดออกซิเดชันและการอักเสบอื่นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการบริโภคไนเตรตจากพืชอย่างสม่ำเสมออาจช่วยปรับสมดุลภาวะออกซิเดชันในร่างกายและลดความเสี่ยงต่อภาวะความเครียดจากออกซิเดชันในผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูงได้
Free Radical Bio Med. 2024;222:519-30