ประสิทธิภาพของน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของทับทิมและคาโมมายล์

การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและปกปิดสองทางในผู้ป่วยโรคปริทันต์ ที่มีภาวะเหงือกอักเสบหรือเยื่อหุ้มฟันอักเสบแบบเรื้อรัง ทั้งเพศชายและเพศหญิง อายุระหว่าง 18 - 56 ปี จำนวน 55 คน โดยแบ่งผู้ป่วยเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 จำนวน 18 คน ได้รับน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสะลายคลอร์เฮกซิดีน (Chlorhexidine) 0.12% (เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ใช้ในผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปาก) กลุ่มที่ 2 จำนวน 19 คน ได้รับน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัด 96% เอทานอลของดอกคาโมมายล์ (Matricaria recutita Linn.) และกลุ่มที่ 3 จำนวน 18 คน ได้รับน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัด 96% เอทานอลของเปลือกผลทับทิม (Punica granatum Linn.) ซึ่งผู้ป่วยได้รับการแนะนำให้ใช้สารทดสอบวันละ 2 ครั้ง โดยให้อมน้ำยาบ้วนปากขนาด 10 มล. ไว้ในปากเป็นเวลา 1 นาที หลังจากการแปรงฟันในตอนเช้าและก่อนนอน 30 นาที เป็นเวลา 15 วัน ผลการทดลองพบว่า ทั้งน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากดอกคาโมมายล์และน้ำยาบ้วนปากที่มีสารสกัดจากเปลือกผลทับทิม สามารถบรรเทาภาวะเหงือกอักเสบและลดอาการเลือดออกในปากได้ดีเทียบเท่ากับสารสะลายคลอร์เฮกซิดีน 0.12% แสดงให้เห็นว่าสารสกัดทั้ง 2 ชนิดมีประสิทธิภาพในการลดการอักเสบและยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปาก ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในการนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับโรคปริทันต์ต่อไป

Complement Ther Clin Pract 2014;20:93-98