คำถาม : ขี้ผึ้งไพล
  • อยากทราบว่า ขี้ผึ้งไพล ในบัญชียาหลักสมุนไพร สามารถทาได้วันละ 2-3 ครั้ง เวลามีอาการปวด มีหลักฐานทางวิชาการมั้ยคะ ว่าสามารถทาได้สูงสุดเท่าไหร่ (max dose)
  • Date : 30/5/2568 16:30:00
คำตอบ : จากการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับความเป็นพิษของน้ำมันไพลและผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้สำหรับทาภายนอกเพื่อบรรเทาอาการปวด พบการศึกษาความเป็นพิษกึ่งเรื้อรังในกระต่าย โดยทดสอบรทาครีมไพลจีซาลลงบนหลังกระต่ายที่โกนขนจนเกลี้ยงขนาด 0.1, 0.3 และ 1.0 ก./กก. ทุกวันเป็นระยะเวลา 28 วัน ไม่มีผลต่อการเจริญเติบโต และการกินอาหารของกระต่าย เมื่อเปรียบเทียบกับกระต่ายที่ได้รับครีมเปล่า ผลการตรวจวิเคราะห์อวัยวะภายในของกระต่ายซึ่งให้ไพลจีซาล พบว่าปกติ เมื่อพิจารณาจากน้ำหนักและ/หรือการตรวจสอบทางเนื้อเยื่อ ผลการศึกษาทางเคมีคลินิกของเลือดพบว่า ไพลจีซาลไม่มีผลกระทบต่อการทำงานของตับ ไต หัวใจ และพบว่าระดับของอิเล็กโทรไลต์ของเลือดไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังพบว่า ไม่มีผลต่อเซลล์ต้นตอของเลือดในไขกระดูก และองค์ประกอบของเลือดในร่างกาย (1) และเมื่อทาครีมติดต่อกัน 90 วัน พบว่าไม่มีอาการผิดปกติสำหรับสัตว์ทดลองที่ใช้ครีมไพลในขนาด 0.1 และ 0.3 ก./กก. ซึ่งเป็นขนาดที่สูงกว่าที่ใช้ในคน 3.5 และ 10 เท่า ตามลำดับ ส่วนขนาด 1.0 ก./กก. ซึ่งสูงเป็น 35 เท่าของขนาดที่ใช้ในคนพบว่า กระต่ายมีอาการซึมและตายไป 4 ตัว จากกลุ่มทดลอง จำนวน 8 ตัว ในวันที่ 11, 29, 49 และ 78 ของการศึกษา การศึกษาทางชีวเคมีในเลือดและพยาธิสภาพของอวัยวะภายในของสัตว์ทุกกลุ่ม ไม่พบความผิดปกติเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับครีมเปล่า (2)

ยังไม่พบการศึกษาที่ระบุถึงขนาดสูงสุดของน้ำมันไพลสำหรับการใช้เป็นยาทาภายนอกในคนได้อย่างชัดเจน มีเพียงข้อห้ามและข้อแนะนำในการระมัดระวังในการใช้คือ ห้ามทาบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนและแผลเปิด หากทาแล้วเกิดอาการระคายเคืองหรือเกิดความผิดปกติบนผิวหนังควรหยุดใช้ทันที

อ้างอิง :
1. Sasithorn wasuwat et al. Subchronic toxicity study of new topical antiinflammatory drug from Phlai (Plygesal) in rabbits. Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 1989.
https://opac.tistr.or.th/cgi-bin/koha/opac-detail.pl?biblionumber=51910
2. Jakkrapong Limpanussorn et al. Research and development in new tropical antiinflammatory drug from Phlai Zingiber cassumunar Roxb. Thailand Institute of Scientific and Technological Research, 1991
https://opac.tistr.or.th/cgi-bin/koha/opac-detail.pl?biblionumber=14815