คำถาม : ยาชักมดลูก
  • กินยาชักมดลูกแล้วประจำเดือนมาควรหยุดกินมั้ย
  • Date : 24/11/2566 13:10:00
คำตอบ : ว่านชักมดลูกตัวเมีย (Curcuma comosa Roxb) มีสารกลุ่มไดแอริลเฮปทานอยด์ ซึ่งฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogenic activity) ซึ่งมีรายงานพบว่า สารสกัดจากว่านชักมดลูกช่วยเพิ่มน้ำหนักและปริมาณไกลโคเจนสะสมของมดลูก กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุมดลูกชั้นต่างๆ ทำให้เกิดการแบ่งตัว เยื่อบุมีความหนามากยิ่งขึ้น มดลูกขนาดใหญ่ขึ้น และมีผลกระตุ้นการเจริญเติบโตของเยื่อบุช่องคลอด ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นลักษณะเฉพาะที่เกิดจากฤทธิ์ของฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งเป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญในการควบคุมการทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง แต่ว่านชักมดลดมีฤทธิ์อ่อนกว่าฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งจะมีผลทำให้ประจำเดือนมาปกติ ในผู้หญิงที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ อย่างไรก็ตามไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน หรือรับประทานเกินขนาดที่ระบุไว้เพราะอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ผู้ป่วยที่มีปัญหาท่อน้ำดีอุดตันไม่ควรใช้เนื่องจากว่านชักมดลูกมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งน้ำดีและอาจทำให้เกิดอาการเสียดท้องในผู้ป่วยที่เป็นนิ่วในถุงน้ำดีได้ นอกจากนี้การใช้ยาว่านชักมดลูก ควรเลือกจากบริษัทที่น่าเชื่อถือ เนื่องจากอาจมีการใช้ว่านชักมดลูกผิดชนิด เช่นการใช้ ว่านชักมดลูกตัวผู้ ได้แก่ Curcuma elata และ Curcuma latifolia ซึ่งพืชทั้งสองชนิดไม่พบรายงานสารที่มีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่พบสารที่ก่อให้เกิดความเป็นพิษต่อตับอีกด้วย ดังนั้นการใช้ยาจากสมุนไพรที่ขาดข้อมูลความปลอดภัยในการใช้ระยะยาว ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเกิน 1 เดือน ควรมีช่วงเวลาที่หยุดใช้อย่างน้อยประมาณ 1 สัปดาห์ และหากใช้สมุนไพรแล้วเกิดความผิดปกติต่อร่างกายควรหยุดใช้และสังเกตอาการ และหากหยุดใช้แล้วยังไม่กลับสู่ภาวะปกติควรปรึกษาแพทย์
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก
https://medherbguru.gpo.or.th/articles/d54_curcuma.pdf
ว่านชักมดลูกตัวเมีย หรือ Curcuma comosa Roxb. และว่านชักมดลูกตัวผู้จำนวน 2 ชนิด คือ C. elata Roxb. และ C. latifolia Rosc. แต่มีเฉพาะว่านชักมดลูกตัวเมียเท่านั้นที่ให้ฤทธิ์เกี่ยวข้องกับสตรี