คำถาม : สมุนไพรแก้ความดัน เบาหวาน
  • สมุนไพรที่มีสรรพคุณแก้ความดันและเบาหวาน
  • Date : 20/9/2561 16:14:00
คำตอบ : สมุนไพรที่มีรายงานวิจัยว่าสามารถลดความดันโลหิตในทางคลินิกได้ผล ได้แก่ กระเจี๊ยบแดง กระเทียม ทับทิม งา ฝรั่ง ดอกคำฝอย และขึ้นฉ่าย เป็นต้น

จากการศึกษาในผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงขั้นที่ 1 (ค่าความดัน 140 - 159/90 - 99 มม.ปรอท) ถึงขั้นที่ 2 (ค่าความดัน 160 - 179/100 - 109 มม.ปรอท) อายุ 30 - 80 ปี ที่ไม่ได้รับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบันก่อนเข้าร่วมการทดลองอย่างน้อย 1 เดือน เมื่อให้ดื่มชาจากผงดอกกระเจี๊ยบแดง 10 ก. ชงในน้ำเดือด 500 มล. และแช่ไว้นาน 10 นาที ดื่มวันละ 1 ครั้ง ช่วงก่อนรับประทานอาหารเช้าทุกวัน เมื่อสิ้นสุดการทดลอง 4 สัปดาห์ พบว่าผู้ป่วยมีค่าความดันโลหิตลดลง และมีผลเทียบเท่ากับผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาแผนปัจจุบัน และการทดลองให้ผู้ป่วยรับประทานกระเจี๊ยบแดงในรูปของสารสกัด anthocyanin จากส่วนของกลีบเลี้ยงขนาด 250 มก./วัน ก็พบว่าสามารถลดความดันโลหิตของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงได้
กระเทียมเพื่อลดความดันโลหิต คือ รับประทานกระเทียมสดประมาณ 8-10 กลีบ/วัน ขนาดกลาง (หรือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ) หรือใช้ในรูปแบบของผงแห้ง 600-900 มก./วัน แต่มีข้อควรระวังคือ ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนาน หลายๆ เดือน เพราะอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกแล้วหยุดยาก และไม่ควรใช้ในผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin coumarin และ aspirin เป็นต้น เนื่องจากกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ซึ่งจะไปเสริมฤทธิ์ของยาเหล่านี้ ทำให้เพิ่มเวลาการไหลของเลือด และผู้ที่ต้องได้รับการผ่าตัด หรือถอนฟัน ควรหยุดรับประทานกระเทียมก่อนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้าทำการรักษา อาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เมื่อรับประทานกระเทียม คือ มีอาการร้อนในปากและทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย มีแผลในกระเพาะอาหาร ปวดท้อง แน่น มีลมในท้อง ไม่อยากอาหาร เหงื่อออก และพบอาการลำไส้อุดตัน เมื่อรับประทานกระเทียมต่อเนื่องเพื่อรักษาหวัด นอกจากนี้การรับประทานกระเทียมปริมาณมากยังทำให้ลมหายใจมีกลิ่นกระเทียม และมีกลิ่นตัวเฉพาะ
ทั้งนี้การใช้สมุนไพรต่างๆ จะใช้เพื่อบรรเทาอาการที่ไม่รุนแรงและเป็นเพียงตัวช่วยเท่านั้น และโรคความดันโลหิตสูงเป็นโรคเรื้อรังที่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดค่ะ

ส่วนสมุนไพรรักษาเบาหวานมีการวิจัยดังนี้ค่ะ

พืชสมุนไพรที่มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดมีหลายชนิดเช่น ฟ้าทะลายโจร กระเทียม หอม ฝรั่ง เป็นต้น ซึ่งรายงานการวิจัยส่วนใหญ่ทำในสัตว์ทดลอง ส่วนรายงานการวิจัยทางคลินิกที่แสดงผลดังกล่าว เช่น
1) ว่านหางจระเข้ ทำการทดลองโดยให้น้ำว่านหางจระเข้ความเข้มข้น 80% ขนาด 1 ข้อนโต๊ะ วันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน ร่วมกับยาแผนปัจจุบันglibenclamide 5 มก. จำนวน 2 เม็ด เป็นเวลา 42 วัน พบว่ามีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดได้ดีกว่าการใช้ glibenclamide 5 มก. จำนวน 2 เม็ด เพียงอย่างเดียว
2) มะระขี้นก มีรายงานว่าการใช้ผลสดขนาด 50 กรัม/วัน มีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ห้ามรับประทานผลสุก (สีส้มแดง) เพราะมีพิษและทำให้คลื่นไส้อาเจียน และการให้ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทานผงแห้งผลมะระขี้นกขนาด 5 ก. แบ่งรับประทานวันละ 3 ครั้ง เป็นเวลา 21 วัน พบว่าสามารถระดับน้ำตาลในเลือดลดลง 25%
3) กระเทียม มีรายงานว่าว่าผู้ป่วยเบาหวานรับประทานกระเทียมผงขนาด 800 มก./วัน นาน 4 สัปดาห์ มีผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง
4) ปัญจขันธ์ มีรายงานว่า เมื่อให้ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 รับประทานชาชงใบปัญจขันธ์ ขนาด 6 ก./วัน (วันละ 2 ครั้งๆ ละ 3 ก.) ก่อนอาหารเช้าและเย็น 30 นาที เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
5) หม่อน มีรายงานว่าการรับประทานผงใบหม่อน ขนาด 1.8 ก. วันละ 3 ครั้ง ร่วมกับน้ำ เป็นเวลา 3 เดือนพบว่าผู้ป่วยเบาหวานจะมีระดับน้ำตาลและค่าระดับน้ำตาลสะสมลดลง ขณะที่ในคนปกติจะไม่มีผล