คำถาม : การสกัดสาร
  • 1.ทำไมถึงนิยมเลือกใช้ ethanol ในการสกัดสารหรอคะ เพราะว่ามีตัวทำละลายตั้งมากมาย
    2.แล้วทำไมต้อง 95% ใช้ความเข้มข้นมากหรือน้อยกว่านั้นได้มั้ยคะ มันจะมีผลอะไรรึป่าวคะ
    3.ทำไมส่วนมากถึงเลือกทดสอบสารสกัดกับเชื้อ s.aureus, e.coli คะ ในเมื่อเชื้อมีเยอะ
    4.เวลาที่เราเลือกปริมาตรของตัวทำละลายต่อตัวอย่างที่เราต้องการสกัด มีเกณฑ์ในการเลือกยังไงคะ
    5.วิธีการทดสอบโดย disk diffusion มันมีข้อดีในการทดสอบอย่างไรบ้างคะ

  • Date : 9/8/2559 16:52:00
คำตอบ : 1.โดยทั่วไปแล้วการสกัดสารสำคัญออกจากพืชแต่ละชนิดมีวิธีการจำเพาะที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติทางเคมีของสารที่ต้องการสกัด โดยทั่วไปในการเลือกตัวทำละลายจะพิจารณาจากคุณสมบัติความมีขั้วที่คล้ายคลึงของสารที่ต้องการสกัดและตัวทำละลาย โดยตัวทำละลายต้องละลายสารที่ต้องการออกมากที่สุดและไม่ละลายสารที่ไม่ต้องการออกมา (selectivity) ในกรณีเอทานอล จัดเป็นสารกลุ่มที่มีขั้วปานกลาง จึงนิยมใช้ในการสกัดสารเบื้องต้น เพราะสามารถสกัดได้ทั้งสารที่มีขั้วและสารที่ไม่มีขั้วออกมาได้ มีความสามารถละลายสารได้กว้างขวาง และค่อนข้างปลอดภัยกว่าตัวทำละลายชนิดอื่น
2.ความเข้มข้นของตัวทำละลายมีผลต่อปริมาณขั้วของตัวทำลาย กล่าวคือ เอทานอล 95% คือตัวทำละลายที่มีอัตราส่วนของเอทานอล 95 ส่วน และน้ำ 5 ส่วน ก็จะมีขั้วต่ำกว่าเอทานอล 70% ที่มีเอทานอล 70 ส่วน และน้ำ 30 ส่วน เมื่อความมีขั้วของตัวทำละลายที่แตกต่างกัน จะมีผลทำให้สกัดกลุ่มสารออกมาได้แตกต่างกัน

3.การจะเลือกเชื้อชนิดใดมาทดสอบนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการทดลองเป็นหลัก ว่าต้องการทดสอบต่อเชื้อในกลุ่มใด ซึ่งเชื้อ S. aureus, E.coli จัดเป็นเชื้อแบคทีเรียก่อโรคที่พบได้บ่อย และเป็นสาเหตุของโรคหลายโรคค่ะ

4.การเลือกใช้ปริมาณของตัวทำละลายต่อตัวอย่างวัตถุดิบ ไม่มีกำหนดแน่ชัด ขึ้นกับกรรมวิธีในการสกัด ชนิดของตัวทำละลาย และวัตถุดิบ

5.Disc diffusion เป็นการทดสอบความไวของเชื้อต่อยาหรือสารสกัดในเชิงคุณภาพ สามารถบอกได้ว่าเชื้อมีความไวต่อยา มีความไวปานกลาง หรือดื้อยา เป็นวิธีที่สะดวก ประหยัดและใช้เวลาน้อยกว่าวิธีอื่น แต่ไม่อาจสามรถระบุค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ และไม่เหมาะในการทดสอบเชื้อที่เจริญช้า และเชื้อแบคทีเรียที่เจริญเติบโตที่สภาวะไม่มีออกซิเจน (Anaerobic bacteria)