คำถาม : น้ำมันมะพร้าวดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่
  • 1. จริงหรือไม่ที่ว่าน้ำมันมะพร้าว ไม่สะสมเป็นไขมัน(คอเลสเตอรอล) ในเส้นเลือดและไม่ทำให้เป็นโรคหัวใจ
    2. โครงสร้างทางเคมีของน้ำมันมะพร้าวเป็นอย่างไร
    3. จริงหรือไม่ที่ว่า น้ำมันถั่วเหลืองที่นำไปหุงต้ม จะไปสะสมเป็นไขมันในร่างกาย มีส่วนเพิ่มคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดและก่อเกิดสารมะเร็ง
    4. ระะหว่างน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันถั่วเหลืองชนิดใดมีประโยชน์มากกว่ากัน

  • Date : 2/9/2552 10:58:00
คำตอบ : 1. น้ำมันมะพร้าวย่อมมีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นกรดไขมันอิ่มตัวสายปานกลาง ซึ่งจะแตกตัว ถูกย่อย และดูดซึมไปใช้ได้ง่ายกว่ากรดไขมันสายยาว ไม่จำเป็นต้องอาศัยน้ำดีมีจากตับอ่อนมาช่วย ไขมันจึงเปลี่ยนไปเป็นพลังงานได้หมด ไม่เกิดสะสมเป็นไขมันในหลอดเลือด และร่างกายของมนุษย์สามารถเปลี่ยนน้ำมันมะพร้าวให้เป็นพลังงานอย่างรวดเร็ว
               2. น้ำมันมะพร้าวประกอบด้วยกรดไขมันชนิดอิ่มตัว (90%) เช่น Caproic acid, Caprylic acid, Capric acid, Lauric acid, Myristic acid, Palmitic acid, Stearic acid, Arachidic acid และกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว (9%) เช่น Palmitoleic acid, Oleic acid, Linoleic acid และสารอื่นๆ เช่น โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต ทั้งนี้ยังขึ้นกับกระบวนการผลิตด้วย คือ น้ำมันมะพร้าวที่ได้จากกระบวนการบีบ หรือใช้ตัวทำละลาย ผ่านความร้อนสูง จะมีสีเหลืองออ่อน เหมาะสำหรับการบริโภค จะปราศจากวิตามินอี ส่วนน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการบีบเย็น เป็นน้ำมันมะพร้าวที่บริสุทธิ์ มีสีใสเหมือนน้ำ มีวิตามินอี มักใช้เพื่อเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอาง
               3. น้ำมันถั่วเหลืองเป็นน้ำมันที่มีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูง เหมาะกับการประกอบอาหารประเภทผัด หรือทอดอาหารที่ไม่ต้องใช้ความร้อนสูงเป็นเวลานาน เพราะน้ำมันชนิดนี้ไม่ทนความร้อนสูง หากมีการใช้ซ้ำ เช่นใช้ทอดอาหารซ้ำกันหลายๆ ครั้ง น้ำมันจะเปลี่ยนเป็นสารก่อมะเร็ง เช่น polycyclic aromatic hydrocarbon (PAH) นอกจากนี้ยังมีรายงานยืนยันว่าการบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้ การเกิดภาวะไขมันในเลือดสูงไม่น่าจะเกิดจากการบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองเพียงอย่างเดียว แต่น่าจะเกิดจากการบริโภคอาหารที่มีไขมันประเภทอิ่มตัวสูง เช่น บริโภคน้ำมันจากสัตว์ และเนย และการมีภาวะไขมันในเลือดสูงก็ทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
               4. ทั้งน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันถั่วเหลืองต่างก็มีประโยชน์ แต่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม เช่น การประกอบอาหารประเภททอดที่ต้องใช้ความร้อนสูง ควรใช้น้ำมันมะพร้าวชนิดบีบร้อน การประกอบอาหารประเภทผัดที่ไม่ต้องใช้ความร้อนสูง ควรใช้น้ำมันถั่วเหลือง การใช้เพื่อบำรุงผิว และบำรุงร่างกายควรใช้น้ำมันมะพร้าวชนิดบีบเย็น