การใช้เมล็ดลินินร่วมกับสาร hesperidin ช่วยบรรเทาภาวะไขมันพอกตับ

การศึกษาทางคลินิกแบบมีการสุ่ม มีกลุ่มควบคุมคู่ขนาน และไม่ปกปิด ( randomized, parallel controlled, open-label clinical trial) เพื่อศึกษาผลของการใช้เมล็ดลินิน (Linum usitatissimum) ร่วมกับสาร hesperidin (สารกลุ่ม flavonoid พบได้มากในพืชตระกูลส้ม) ในการรักษาภาวะไขมันพอกตับ ในผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับชนิดที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ (non-alcoholic fatty liver disease; NAFLD) จำนวน 100 คน โดยสุ่มแยกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ 25 คน กลุ่มที่ 1 เข้าโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต (lifestyle modification program) (กลุ่มวบคุม) กลุ่มที่ 2 เข้าโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและรับประทานผงเมล็ดลินิน 30 ก./วัน กลุ่มที่ 3 เข้าโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและรับประทานสาร hesperidin 1 ก./วัน และกลุ่มที่ 4 เข้าโปรแกรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตและรับประทานผงเมล็ดลินิน 30 ก./วันร่วมกับสาร hesperidin 1 ก./วัน ทำการศึกษานาน 12 สัปดาห์ ประเมินผลโดยวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของขนาดร่างกาย (anthropometric parameters), การเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน (metabolic profiles of glucose and lipids), ตัวชี้วัดการอักเสบในร่างกาย (inflammatory biomarkers), การสะสมไขมันและการเกิดพังผืดภายในตับ (hepatic steatosis and fibrosis) หลังสิ้นสุดการทดลองพบว่า ทุกกลุ่มมีค่าดัชนีมวลกาย, ค่าน้ำตาลในเลือด, และการสะสมไขมันในตับลดลงอย่างชัดเจน กลุ่มที่ได้รับเมล็ดลินินและ/หรือสาร hesperidin มีระดับ alanine aminotransferase, ความดื้อต่ออินซูลิน, ระดับน้ำตาลหลังอดอาหาร และดัชนีการเกิดภาวะไขมันพอกตับลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม จากผลการทดลองทำให้สรุปได้ว่า เมล็ดลินินและสาร hesperidin สามารถช่วยให้การเผาผลาญน้ำตาลและไขมันของผู้ป่วย NAFLD ดีขึ้น รวมทั้งช่วยลดการอักเสบและการสะสมไขมันในตับ และการให้เมล็ดลินินร่วมกับสาร hesperidin จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและภาวะดื้อต่ออินซูลินได้ดีขึ้น และให้ผลดีกว่าการใช้เมล็ดลินินหรือสาร hesperidin เพียงอย่างเดียว

Eur J Clin Nutr. 2021;75:99-111.