ผลของการรับประทานน้ำมันมะกอก บริสุทธิ์พิเศษ (extra virgin olive oil) และน้ำมันปลาต่อระดับไขมันในเลือดผู้ป่วย metabolic syndrome

ศึกษาผลของการรับประทานน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ (extra virgin olive oil) และน้ำมันปลาต่อระดับไขมันในเลือดผู้ป่วยในกลุ่มภาวะ metabolic syndrome คือมีความผิดปกติที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด จำนวน 102 คน (ชาย 21, หญิง 81) อายุเฉลี่ย 51.45 ± 8.27 ปี โดยแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 รับประทานอาหารปกติ (กลุ่มควบคุม) กลุ่มที่ 2 เสริมอาหารด้วยการให้ผู้ป่วยรับประทานน้ำมันปลาที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า 3 วันละ 3 กรัม (10 แคปซูล) กลุ่มที่ 3 ให้รับประทานน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ วันละ 10 มล. และกลุ่มที่ 4 ให้รับประทานน้ำมันปลาที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า 3 วันละ 3 กรัม ร่วมกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ 10 มล. ใช้ระยะเวลาในการศึกษา 90 วัน จากนั้นทำการเก็บตัวอย่างเลือดผู้ป่วยทุกกลุ่มเพื่อนำมาตรวจวิเคราะห์ค่าทางชีวเคมี ผลจากการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยที่รับประทานน้ำมันปลาร่วมกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีค่า คอเลสเตอรอล และ low-density lipoprotein cholesterol (LDL-C) ลดลงจากช่วงระยะเวลาก่อนการทดลอง และลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ป่วยกลุ่มอื่นๆ นอกจากนี้ผลการวิเคราะห์การเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น และ oxidative stress ด้วยวิธี total radical-trapping antioxidant parameter (TRAP) และตรวจความเข้มข้นของ hydroperoxide และ advanced oxidation protein products (AOPPs) พบว่า การรับประทานน้ำมันปลาร่วมกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์มีผลลด hydroperoxide และ AOPP อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การรับประทานน้ำมันปลาที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดโอเมก้า 3 ร่วมกับน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีผลช่วยลดไขมันในเลือด และลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดอนุมูลอิสระในผู้ป่วยภาวะ metabolic syndrome ได้

Nutrition 2015; 31(6): 834-40