การเปรียบเทียบผลของน้ำองุ่นแดงและวิตามินอีในผู้ป่วยที่ได้รับการล้างไต

การศึกษาในผู้ป่วยที่ได้รับการล้างไต จำนวน 32 คน เป็นเพศชาย 16 คน เพศหญิง 16 คน อายุระหว่าง 33 – 79 ปี ทุกคนมีประวัติได้รับการล้างไต ≥ 3 เดือน มาก่อน ด้วยอัตรา 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละนาน 3.5 – 4.5 ชม. และได้รับ erythropoietin และวิตามินรวม (โดยจะต้องได้รับวิตามินซี 200 มก./วัน) ในระหว่างการศึกษาทุกคนจะได้รับอาหารที่ประกอบด้วยโปรตีน 15% คาร์โบไฮเดรต 50% ไขมัน 35% คอเลสเตอรอล 320 มก. ใยอาหาร 25 ก. และน้ำ 1.2 ลิตร จำกัดอาหารโปแตสเซียมสูง ผลไม้และผัก ทำการแบ่งกลุ่มผู้ป่วยเป็น 4 กลุ่มๆละ 8 คน คือ กลุ่มน้ำองุ่นแดง จะดื่มน้ำองุ่นแดงเข้มข้น 50 มล. วันละ 2 ครั้ง มื้อกลางวันและมื้อเย็น นาน 2 สัปดาห์ กลุ่มวิตามินอี จะได้รับวิตามินอีขนาด 800 IU ในระหว่างการล้างไตแต่ละครั้ง นาน 2 สัปดาห์ กลุ่มน้ำองุ่นแดงและวิตามินอี จะได้รับทั้งน้ำองุ่นแดงและวิตามินอี เช่นเดียวกับทั้ง 2 กลุ่มข้างต้น และกลุ่มควบคุม ไม่ได้รับทั้งน้ำองุ่นแดงและวิตามินอี พบว่า การดื่มน้ำองุ่นแดงเพียงอย่างเดียวหรือร่วมกับการได้รับวิตามินอี จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล, low density lipoprotein และ apolipoprotein B ในเลือด การดื่มน้ำองุ่นแดงเพียงอย่างเดียวจะเพิ่มระดับ high density lipoprotein แต่จะไม่มีผลในผู้ป่วยที่ได้รับวิตามินอีเพียงอย่างเดียว ทั้งน้ำองุ่นแดงหรือวิตามินอีหรือทั้งสองอย่างร่วมกันจะช่วยลด oxidized LDL และเอนไซม์ NADPH oxidase ในเม็ดเลือดขาวนิลโตรฟิลที่แยกออกมาจากผู้ป่วย เมื่อดูผลต่อระดับ ∝-tocopherol ในเลือด พบว่าวิตามินอีจะมีผลเพิ่มระดับ ∝-tocopherol ในเลือด ส่วนน้ำองุ่นแดงไม่ผลต่อระดับ ∝-tocopherol ในเลือด นอกจากนั้นน้ำองุ่นแดงหรือวิตามินอีจะมีผลยับยั้งสารที่เกี่ยวข้องในกระบวนการอักเสบ คือน้ำองุ่นแดงจะยับยั้ง monocyte chemotractant protein 1 ส่วนวิตามินอีจะยับยั้ง intercellular adhesion molecule 1 ดังนั้น น้ำองุ่นแดงจึงน่าจะมีผลช่วยลดปัญหาหลอดเลือดแข็ง และการเกิดออกซิเดชัน ที่มักจะพบบ่อยในผู้ป่วยที่ต้องล้างไตได้

Am J Clin Nutr 2008;87:1053-61