ฤทธิ์ต้านไวรัสจากสารสำคัญในรากของปลาไหลเผือก

การทดสอบฤทธิ์ต้านไวรัส common cold human coronavirus OC43 (HCoV-OC43) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดทั่วไป และไวรัส severe acute respiratory syndrome coronavirus-2 (SARS-CoV-2) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค COVID-19 ของสารในกลุ่ม quassinoids จากสารสกัดและสารสำคัญของรากปลาไหลเผือก (Eurycoma longifolia) และรากปลาไหลเผือกน้อย (Eurycoma harmandiana) ด้วยวิธี In-Cell ELISA (enzyme-linked immunosorbent assay) พบว่าสารในกลุ่ม quassinoids ได้แก่ สาร chaparrinone (รากปลาไหลเผือกน้อยมีมากกว่ารากปลาไหลเผือก), สาร eurycomalactone (พบเฉพาะในรากปลาไหลเผือก), สาร eurycomanone (รากปลาไหลเผือกมีมากกว่ารากปลาไหลเผือกน้อย), สาร 13-α(21)-epoxy-eurycomanone (รากปลาไหลเผือกน้อยมีมากกว่ารากปลาไหลเผือก) และสาร 13β,21-dihydroeurycomanone (พบในปริมาณใกล้เคียงกัน) มีประสิทธิภาพในการยับยั้งไวรัสทั้ง 2 ชนิด โดยสาร chaparrinone มีค่าความเข้มข้นที่ยับยั้งได้ครึ่งหนึ่ง (IC50) ต่อไวรัส HCoV-OC43 และ SARS-CoV-2 เท่ากับ 0.32 และ 0.43 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ, สาร eurycomalactone มีค่า IC50 เท่ากับ 0.37 และ 0.51 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ, สาร eurycomanone มีค่า IC50 เท่ากับ 4.47 และ 14.96 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ, สาร 13-α(21)-epoxy-eurycomanone ค่า IC50 เท่ากับ 5.88 และ 9.39 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ และสาร 13β,21-dihydroeurycomanone ค่า IC50 เท่ากับ 0.25 และ 4.84 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ ในขณะที่ยามาตรฐาน remdesivir มีค่า IC50 เท่ากับ 0.32 และ 22.53 ไมโครโมลาร์ ตามลำดับ และการศึกษาเพิ่มเติมในสารสกัดหยาบพบว่า สารสกัด 50% เอทานอล และสารสกัดน้ำของรากปลาไหลเผือก มีค่า IC50 ต่อไวรัส HCoV-OC43 เท่ากับ 2.79 และ 4.47 มคก./มล. ตามลำดับ และมีค่า IC50 ต่อไวรัส SARS-CoV-2 เท่ากับ 1.61 และ 8.92 มคก./มล. ตามลำดับ ส่วนสารสกัด 50%เอทานอล และสารสกัดน้ำของรากปลาไหลเผือกน้อย มีค่า IC50 ต่อไวรัส HCoV-OC43 เท่ากับ 1.37 และ 13.71 มคก./มล. ตามลำดับ และมีค่า IC50 ต่อไวรัส SARS-CoV-2 เท่ากับ 2.79 และ 12.60 มคก./มล. ตามลำดับ จากผลการทดลองแสดงให้เห็นว่า สารสกัดและสารสำคัญในกลุ่ม quassinoids จากรากปลาไหลเผือกและรากปลาไหลเผือกน้อย น่าจะมีประสิทธิภาพในการต้านไวรัสซึ่งเป็นสาเหตุของโรคไข้หวัดทั่วไป และโรค COVID-19 แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม

J Nat Prod. 2022;85:2779-88. doi: 10.1021/acs.jnatprod.2c00736.