คำถาม : การสกัดร้อน และ การสกัดเย็นสมุนไพร
  • ขอเรียนถามคำถามดังนี้ค่ะ
    1.การสกัดร้อนจากพืชสมุนไพรจะให้สารประเภทไหนออกมาได้ดีกว่าการสกัดเย็น
    2.การสกัดเย็นจากพืชสมุนไพรจะให้สารประเภทไหนออกมาได้ดีกว่าการสกัดร้อนคะ
    3.การสกัดร้อนหรือสกัดเย็นจะรักษาธาตุอาหาร (วิตามิน,เกลือแร่,คาร์โบไฮเดรต,กรดอะมิโน,กรดไขมัน,น้ำตาลเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน) ได้มากกว่ากัน
    4.การสกัดสารที่อุณหภูมิต่างกันมีผลต่อการลดลงของสารอาหารอย่างไรบ้างคะ
    เรียนถามท่านผู้รู้ช่วยไขความกระจ่าง ขอบพระคุณค่ะ

  • Date : 29/1/2561 17:02:00
คำตอบ : การสกัดมีหลายวิธี ทั้งที่ไม่ใช้ความร้อน และใช้ความร้อน ขึ้นอยู่กับกลุ่มสารที่ต้องการสกัดและนำไปใช้ วิธีที่ไม่ใช้ความร้อนเช่น การหมักในตัวทำละลายต่างๆ การบีบเย็น (มักใช้กับการสกัดน้ำมันพืช และน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกส้ม หรือการคั้นน้ำผักและผลไม้ต่างๆ) ส่วนใหญ่จะใช้สกัดสารที่ไม่ทนต่อความร้อน หรือต้องการรักษาพวกวิตามินต่างๆ หรือต้องการให้ได้สารสกัดที่กลิ่นไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนการสกัดด้วยความร้อน เช่น การสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการกลั่นด้วยน้ำ การต้มด้วยน้ำ เช่นการต้มพวกยาหม้อต่างๆ การสกัดด้วยตัวทำละลายโดยใช้ความร้อน เนื่องจากความร้อนจะช่วยในการสกัดให้สารออกมาจากพืชและละลายอยู่ในน้ำและตัวทำละลายได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามสารที่ไม่คงตัวด้วยความร้อนอาจสลายตัวได้

ยกตัวอย่างเช่นการสกัดน้ำมันมะพร้าวแบบสกัดเย็นโดยใช้วิธีหมักหรือบีบน้ำกะทิออกจากเนื้อมะพร้าวก่อนนำไปตกตะกอน เพื่อให้ได้น้ำมันออกมา น้ำมันมะพร้าวที่สกัดแบบเย็นนี้จะเรียกว่าน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ หรือ virgin oil ซึ่งจะมีลักษณะใส ไม่มีสี ไม่มีตะกอน มีกลิ่นหอมของมะพร้าว และยังคงวิตามินอยู่มากกว่าการสกัดน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากสกัดแบบร้อน ซึ่งน้ำมันที่ได้จะมีสีเหลืองและไม่มีกลิ่นหรือกลิ่นเปลี่ยนไป

สารอาหารต่างๆ เช่น เกลือแร่,คาร์โบไฮเดรต,กรดอะมิโน,กรดไขมัน,น้ำตาลเชิงเดี่ยวและเชิงซ้อน มักคงตัวด้วยความร้อน ส่วนวิตามินส่วนใหญ่ รวมถึงสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระต่างๆ มักจะไม่คงตัวด้วยความร้อน ดังนั้นหากต้องการให้เหลือคุณค่าทางอาหารมากที่สุด โดยเฉพาะพวกวิตามินต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนในการสกัด

อย่างไรก็ตาม ในการเลือกวิธีสกัดเพื่อให้ได้สารที่ต้องการออกมาดีที่สุด ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ถูกนำมาพิจารณา เช่น การเลือกตัวทำละลายให้เหมาะสมกับคุณสมบัติการละลายได้ของสารที่ต้องการ เป็นต้น