ขมิ้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ Curcuma
longa L.
วงศ์ Zingiberaceae
ชื่อพ้อง C.
domestica Valeton
ชื่ออื่น ๆ ขมิ้นแกง ขมิ้นหยอก ขมิ้นหัว ขมิ้นชัน ขี้มิ้น หมิ้น ตายอ สะยอ Turmeric
สารออกฤทธิ์ curcumin, ar-turmerone (1)
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่เกี่ยวกับแก้โรคแผลในกระเพาะอาหาร
1.
ฤทธิ์สมานแผลในกระเพาะอาหาร
โดยเร่งการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อที่เป็นแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น ar-turmerone จากน้ำมันหอมระเหยของขมิ้นเป็นสารออกฤทธิ์ป้องกันและรักษาแผลในกระเพาะอาหาร
(1)
น้ำคั้นเหง้าสด ผงขมิ้น
ส่วนที่สกัดด้วยอัลกอฮอล์ที่ละลายในเฮกเซนและส่วนที่สกัดด้วยอัลกอฮอล์ที่ไม่ละลายในเฮกเซนให้แก่หนูขาวที่ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร
3 วิธี ได้แก่ การทำให้เครียดด้วยความเย็น
ให้กรดเกลือและให้แอสไพริน
พบว่ายาเตรียมและส่วนสกัดต่างๆ
ยกเว้นส่วนที่สกัดด้วยอัลกอฮอล์ที่ไม่ละลายในเฮกเซนป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
(2)
นอกจากนี้ยังมีการทดลองทางคลินิกในการใช้ขมิ้นในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องด้วยอาการโรคแผลในกระเพาะอาหาร
โดยเปรียบเทียบกับการใช้ยาไตรซิลิเกต (trisilicate) ซึ่งเป็นยาลดกรดขององค์การเภสัชกรรมได้ผลดังนี้ คือ
อาการดีขึ้นมากหลังรักษาด้วยขมิ้นชันครบ 12 สัปดาห์ จำนวน 15
ราย คิดเป็น 60% หายเป็นปกติ 1 ราย คิดเป็น 5.8% อาการดีขึ้นมากหลังรักษาด้วยยาไตรซิลิเกต
5 ราย คิดเป็น 50% และหายเป็นปกติ 4 ราย คิดเป็น 40% (3)
ต่อมาได้มีการทดลองในผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องและอาการอื่นๆ
ที่บ่งถึงภาวะแผลเปื่อยในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก โดยให้รับประทานขมิ้นแคปซูล 250
มก. (2 แคปซูล) วันละ 4
ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน เป็นเวลา 4 สัปดาห์
ให้ผลการรักษาได้ดี ไม่มีผลการเปลี่ยนแปลงของเลือด (2) และยังมีการทดลองในผู้ป่วยโดยให้ขมิ้น
250 มก. (2 แคปซูล) 4 เวลา ก่อนอาหารและก่อนนอน ทดสอบโดยการส่องกล้องในสัปดาห์ที่ 0, 4,
8 และ 12 สัปดาห์ หลังจากรักษาด้วยขมิ้นในผู้ป่วย 10 คน
เป็นชาย 8 คนและหญิง 2 คน อายุระหว่าง 16-60
ปี เป็นแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของแผล 0.5-1.5
ซม. หลังจากรักษาไปได้ 4 สัปดาห์ มี 5 คน (50%) ที่แผลหาย
และอีก 6 คน (60%) แผลหายในช่วงสัปดาห์ที่
12 (2)
นอกจากนี้ได้มีการทดลองต่อมาในผู้ป่วยชาย 24 คนและหญิง 21 คน ให้รับประทานขมิ้นแคปซูล 300
มก. (2 แคปซูล) 5 เวลา
คือ ก่อนอาหาร ชั่วโมงที่ 16 และก่อนนอน หลังจากนั้น 4
สัปดาห์ มี 12 ราย แผลหาย (48%) และในสัปดาห์ที่ 8 มี 18 ราย แผลหาย (76%) และอีก
19 ราย ที่แผลไม่หายใน 12 สัปดาห์ มี 20
ราย ไม่พบแผลในกระเพาะอาหาร แต่มีอาการปวดท้อง
กระเพาะอาหารอักเสบและอาหารไม่ย่อย และยังพบอีกว่าอาการปวดท้องและไม่สบายท้องหายไป
เมื่อให้ขมิ้นแคปซูลใน 1-2 สัปดาห์แรก และสามารถรับประทานอาหารได้ปกติแทนอาหารอ่อนได้ใน
4 สัปดาห์ ระดับสารต่างๆ ในเลือดของผู้ป่วย 54 คน ไม่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ (4)
curcumin จากขมิ้นลดการอักเสบจากบาดแผลได้ดี
การทดลองในหลอดทดลอง โดยใช้สารสกัดขมิ้น 160 มก./กก. กรอกเข้าทางกระเพาะอาหาร (intragastric) ของหนูขาว ยับยั้งการอักเสบคิดเป็น 29.5% (5) curcumin มีฤทธิ์ต้านการอักเสบที่เกิดจากการเหนี่ยวนำด้วยคาราจีแนน
การทดลองเปรียบเทียบระหว่าง phenylbutazone กับ sodium
curcuminate 30 มก./กก. พบว่าได้ผลดี
แต่ถ้าสูงขึ้นเป็น 60 มก./กก. ฤทธิ์ต้านการอักเสบจะลดลง และ sodium curcuminate ยังสามารถยับยั้งการบีบตัวของลำไส้หนูในหลอดทดลองที่เหนี่ยวนำจากนิโคติน
อะซีติลโคลีน 5-hydroxy-tryptamine ฮีสตามีนและแบเรียมคลอไรด์
นอกจากนี้ sodium curcuminate ยังลดจังหวะการบีบรัดตัวของลำไส้เล็กของกระต่าย
โดยไปลดระยะห่างของจังหวะการบีบรัดตัวของลำไส้ (6)
นอกจากนี้ curcumin
มีฤทธิ์ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารน้อยกว่า phenylbutazone และป้องกันการอักเสบโดยเหนี่ยวนำให้ระดับ SGOT และ SGPT
เพิ่มขึ้น แต่ไม่มีฤทธิ์แก้ปวดและลดไข้
ขนาดที่รับประทานแล้วทำให้เกิดอันตรายจากการทดลองในหนูถีบจักร คือมากกว่า 2
ก./กก.(5)
ขมิ้นสามารถยับยั้งการเกิดแผล
ช่วยไม่ให้แผลในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น
ทดลองโดยให้สารสกัดอัลกอฮอล์ของขมิ้นกรอกเข้าทางปาก ในขนาด 500 มก./กก. แก่หนูขาว
สามารถป้องกันการเกิดแผลที่เป็นสาเหตุจาก pyloric ligation, ความเครียดโดยใช้ความเย็น,
indomethacin, reserpine และ cysteamine รวมทั้งเมทานอล
(80%), 0.6 M hydrochloride, 0.2 M Sodium hydroxide และ Sodium
chloride (95%) (7) ได้อีกด้วย
phenyl-1-hydroxy-N-pentane ซึ่งสังเคราะห์จาก
p-tolylmethyl carbinol จากขมิ้น
สามารถแสดงฤทธิ์ต้านการหลั่ง secretin โดยไปกระตุ้นการหลั่ง bicarbonate
จากตับอ่อน ทำให้ปริมาณ secretin เพิ่มขึ้น (8)
2.
กระตุ้นการหลั่งมิวซินมาเคลือบกระเพาะอาหาร
ขมิ้นสามารถต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร (7,
9) โดยกระตุ้นการหลั่งมิวซินมาเคลือบและยับยั้งการหลั่งน้ำย่อยต่างๆ
(10) สารสำคัญในการออกฤทธิ์คือ curcumin ในขนาด
50 มก./กก. สามารถกระตุ้นการหลั่งมิวซินออกมาเคลือบกระเพาะอาหาร
(11) แต่ถ้าใช้ในขนาดสูงอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ (12,
13)
มีการทดลองในกระต่ายเปรียบเทียบกับกลุ่มที่มีการหลั่งกรดมาก
พบว่าผงขมิ้นไม่เปลี่ยนแปลงปริมาณน้ำย่อยและกรดในกระเพาะอาหาร
แต่เพิ่มส่วนประกอบของมิวซิน (11) ส่วน curcumin
ที่ได้จากเหง้าขมิ้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่ถูกเหนี่ยวนำโดย
phenylbutazone และแอสไพริน โดยไปเพิ่มส่วนประกอบของมิวซิน (14)
3. ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
เป็นที่ทราบกันแน่ชัดแล้วว่า เชื้อแบคทีเรีย Helicobacter เป็นต้นเหตุสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
เนื่องจาก Helicobacter
ทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารถูกย่อยทำลายโดยกรดและน้ำย่อยได้ง่ายขึ้น
สารสกัดเมทานอลจากรากขมิ้นร่วมกับเหง้าขิง (1:1) มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
Helicobacter pyroli ความเข้มข้นของสารต่ำสุดที่ออกฤทธิ์ในการยับยั้งได้
50% (MIC50) เท่ากับ 50 มคก./มล. (15) สารสกัดเมทานอลจากเหง้าขมิ้นแห้งและสารเคอร์คูมินจากขมิ้น
สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของ H. pyroli 19 สายพันธุ์
รวมทั้งสายพันธุ์ cagA+ 5 สายพันธุ์ ค่า MIC อยู่ระหว่าง 6.25-50 มคก./มล.
(16) Foryst-Ludwig และคณะ ศึกษาสารเคอร์คูมินจากขมิ้นความเข้มข้น 40
หรือ 80 ไมโครโมล ไม่มีผลยับยั้ง H.
pyroli เมื่อทดสอบโดยการนับจำนวน colony ของเชื้อแบคทีเรียที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่แตกต่างจาก colony ที่ไม่ได้รับสารเคอร์คูมิน แต่พบว่าเคอร์คูมินจะยับยั้งการทำงานของ NF-KB
ซึ่งก่อให้เกิดการอักเสบ โดยจะยับยั้งการสลายตัวของ IKBa การทำงานของเอนไซม์ IKB kinases a และ b
และ NF-KB DNA-binding นอกจากนี้ยังยับยั้งการหลั่ง
Interleukin 8 และการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (cell
scattering) (17)
ดูรายละเอียดในแก้โรคอุจจาระร่วง
ในปัจจุบันประเทศไทยได้มีการนำขมิ้นมาใช้ประโยชน์ในรูปยาผงหรือแคปซูล
จึงควรมีการศึกษาวิจัยทางด้านนี้เพิ่มเติมในเรื่องปริมาณและขนาดของสารออกฤทธิ์
เพื่อยืนยันผลการทดลอง
และสามารถพัฒนาผลการศึกษาวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ในการรักษาแผลในกระเพาะอาหารต่อไป
1.
Nutakul W. NMR analysis of antipeptic ulcer principle from Curcuma
longa L. Bull Dept Med Sci
1994;36(4):211-8.
2.
Prucksunand C, Indrasukhsri B,
Leethochawalit M, Nilvises N, Prijavudhi A, Wimolwattanapun S. Effect of the long turmeric (Curcuma
longa Linn.) on healing of peptic ulcer: a preliminary report of 10 case
study. Thai J Pharmacol 1986;8(3):
139-51.
3.
อัญชลี อินทนนท์ สมเกียรติ เมธีวีรวงศ์
ประกาย วิบูลย์วิภา พยุงศรี เซียงตระกูล, บรรณาธิการ. รายงานการวิจัยฉบับสมบูรณ์เรื่อง การใช้ขมิ้นรักษาอาการปวดท้อง. โครงการสมุนไพรกับการสาธารณสุขมูลฐาน
กระทรวงสาธารณสุข (โดยความช่วยเหลือขององค์การยูนิเซฟ). สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
กระทรวงสาธารณสุข, 2529:7.
4.
Prucksunand C, Indrasukhsri B,
Leethochawalit M, Hungspreugs K.
Phase II clinical trial on effect of the long turmeric (Curcuma longa
Linn.) on healing of peptic ulcer. Southeast Asian. J Trop Med Public Health 2001;32(1):208-15.
5.
Srimal RC, Dhawan BN. Pharmacology of diferuloyl methane
(curcumin), a non-steroidal anti-inflammatory analogs in rats. J Pharm Pharmacol 1973;25(6):447-52.
6.
Rao TS, Basu N, Siddiqui HH. Anti-inflammatory activity of curcumin
analogs. Indian J Med Res 1982;75:574-8.
7.
Permpiphat U, Kieatyingungsulee N,
Anulakanapakorn K, Jirajariyavech W, Kittisiripornkul S, Juthaputhi U. Pharmacological study of Curcuma
longa. Symposium of the
Department of Medicinal Science, Bangkok, Thailand, Dec 3-4, 1990.
8.
Chey WY, Laura M, Lee KY, Watanabe S,
Shiratori K, Takeuchi T. Effect of
1-phenylpentanol on release of secretin and exocrine pancreatic secretion in
dogs and humans. Gastroenterology
1983;84:1578-84.
9.
Gujral ML, Chowdhury NK, Saxena PN. Effect of indigenous remedies on the
healing of wounds and ulcers. JIMA
1953;22(7):273-6.
10.
Rafatullah S, Tariq M, AI-Yahya MA, Mossa
JS, Ageel AM. Evaluation of
tumeric (Curcuma longa) for gastric and duodenal antiulcer activity in
rats. J Ethnopharmacol
1990;29(1):25-34.
11.
Sinha M, Mukherjee BP, Mukherjee B, Sikdar
S, Dasgupta SP. Study of the
mechanism of action of curcumin: an antiulcer agent. Indian J Pharm 1975;7:98-9.
12.
Prasad DN, Gupta B, Srivastava RK,
Satyavati GV. Studies on
ulcerogenic activity of curcumin.
Ind J Physiol Pharmacol 1976;20(2):92-3.
13.
Gupta B, Kulshrestha VK, Srivastava RK,
Prasad DN. Mechanisms of curcumin
induced gastric ulcer in rats.
Indian J Med Res 1980;71:806-14.
14.
Mukerji B, Zaidi SH, Singh GB. Species and gastric secretion in
rabbits. J Sci Industr Res
1961;20:25-8.
15.
Mahady GB, Pendland SL, Stoia A, Hamill
FA. In vitro susceptibility
of Helicobacter pyroli to botanicals used traditionally for the
treatment of gastrointestinal disorders.
Phytomedicine 2000;(suppl II):95.
16.
Mahady GB, Pendland SL, Yun G, Lu ZZ. Turmeric (Curcuma longa) and
curcumin inhibit the growth of Helicobacter pyroli, a group 1
carcinogen. Anticancer Res
2002;22(6C):4179-81.
17.
Foryst-Ludwig A, Neumann M,
Schneider-Brachert W, Naumann M.
Curcummin blocks NF-KB and the motogenic response in Helicobacter
pyroli-infected epithelial calls.
Biochemical Biophysical Research Communications 2004;316(4):1065-72.