สมุนไพรที่ใช้รักษาโรคเชื้อราในช่องปาก
ราก่อโรคในช่องปากที่พบมากที่สุดในผู้ป่วยเอดส์ คือ เชื้อรากลุ่ม Candida
ซึ่งสามารถก่อโรคได้ทั้งที่ผิวหนังและที่อวัยวะภายใน
โดยเชื้อที่สำคัญสุดคือ C. albicans species ที่พบรองลงมาได้แก่
C. tropicalis, C. parapsilosis และ C.
guilliermondii ปัจจุบันมีรายงานการเกิดโรคจากเชื้อ C.
lusitaniae ด้วย การติดเชื้อ Candida จะแสดงอาการทางคลินิกให้ปรากฏเป็นโรคแรก
และเป็นการบ่งชี้ว่าผู้ป่วยมีความผิดปกติในระบบภูมิคุ้มกัน (ซึ่งปรากฏอาการเมื่อจำนวน
CD4+ lymphocytes ประมาณ 400 เซลล์/ลูกบาศก์มิลลิเมตร) ในผู้ป่วยเอดส์เต็มขั้น
มักกลับเป็นซ้ำอีกทุกๆ 1-2 เดือนหลังได้รับการรักษาแล้ว (1)
โดยตำแหน่งที่พบมากที่สุดคือ ช่องปากและคอหอย
เชื้ออาจลุกลามไปที่หลอดอาหาร ทำให้กลืนลำบาก (dysphagia) ไปที่กล่องเสียง
ทำให้มีเสียงแหบ และไปที่ทางเดินหายใจส่วนล่างด้วย สำหรับ oropharyngeal
candidiasis มี 4 ชนิด คือ
1. pseudomembranous
candidiasis
2. atrophic
(erythematous) candidiasis
3. hyperplastic
candidiasis
4. angular
cheilitis
สำหรับ atrophic
candidiasis นั้น การวินิจฉัยค่อนข้างลำบากถ้าไม่นึกถึง
เพราะลักษณะจะเป็นผื่นสีแดง (erythematous) ที่ hard หรือ soft plate และถ้าเป็นที่ลิ้นจะเป็น depapillated
smooth red glossal mucosa นอกจากนั้นการติดเชื้ออาจลุกลามเข้ากระแสเลือด
ทำให้เกิดฝีในสมอง (brain abscess) และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis)
ได้ (2)
1. local
treatment เช่น clotrimazole troche อมครั้งละ
10 มก. วันละ 4-5
ครั้ง นาน 14 วัน (ให้จิบน้ำบ่อยๆ
ขณะอมยา ถ้าผู้ป่วยมีอาการปากแห้ง (xerostomia))
2. รับประทานยา fluconazole 50 มก./วัน หรือ itraconazole 100 มก./วัน นาน 2 สัปดาห์ (2,
3)
1. ศมนีย์ ศุขรุ่งเรือง อังคณา ฉายประเสริฐ พรรณกร อิ่มวิทยา จุรี
เจียรนัยศิลาวงศ์ ยงค์ รงรุ่งเรือง. ราฉวยโอกาสในผู้ป่วยโรคเอดส์
ใน พิไลพันธ์ พุธวัฒนะ (บรรณาธิการ). เอชไอวีและจุลชีพฉวยโอกาส. กรุงเทพฯ:อักษรสมัย, 2541:504 หน้า.
2. วิวัฒน์ โรจนพิทยากร ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ,
บรรณาธิการ. แนวทางการดูแลรักษาผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยโรคเอดส์เด็กและผู้ใหญ่ในประเทศไทย
ปี พ.ศ. 2545.
นนทบุรี:การศาสนา, 2545.
3. http://www.fda.gov Available access 14/01/2003