สมุนไพรที่ใช้ในโรคอุจจาระร่วงเรื้อรัง
ผู้ป่วยเอดส์จะมีอาการอุจจาระร่วงเรื้อรังนานเกิน
3 เดือน โดยมีสาเหตุจากการติดเชื้อ ดังนี้
1. เชื้อ Protozoa -
Strongyloides
-
Eryptosporidium
-
Giardia lamblia
-
Entamoaeba histolytica
-
Isospora belli
2.
เชื้อ Bacteria -
Mycobacterium tuberculosis
-
Mycobacterium avium complex
- Salmonella
typhimurium
- Shigella
flexneri
3.
เชื้อ Fungal -
Candida albicans
อาการ ถ่ายอุจจาระเป็นน้ำ อาจมีตะคริวที่ท้อง ปวดท้อง เบื่ออาหาร
คลื่นไส้อาเจียน น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ไม่มีแรง มีไข้ ปวดศีรษะ
ผิวหนังบริเวณรอบทวารหนักเปื่อย เป็นแผล ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย อาจมีภาวะขาดน้ำ และ
electrolyte imbalance
การรักษา
- Salmonellosis and Shigellosis : ให้ norfloxacin ขนาดเม็ดละ 200 มก. รับประทานครั้งละ
2 เม็ด วันละ 2 ครั้ง นาน 7 วัน
- Giardiasis : ให้ metronidazole ขนาดเม็ดละ 500 มก. รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร
วันละ3 ครั้ง นาน 7 วัน
- Entamoaeba histolytica :
ให้ metronidazole ขนาดเม็ดละ480
มก. รับประทานครั้งละ 1
เม็ด หลังอาหาร วันละ 3 ครั้ง นาน 7 วัน
- Isospora belli :
ให้ cotrimoxazole
(500 mg) รับประทานครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหาร
วันละ 3 ครั้ง นาน 14 วัน
- Strongyloidiosis :
ให้ albendazole
รับประทาน 400 มก.วันละ 1 ครั้ง นาน 7 วัน
- Cryptosporidiosis :
ยังไม่มียารักษาที่ได้ผล ให้รักษาตามอาการ และพิจารณาให้ Antimotility agents
- Mycobacterium tuberculosis :
ให้ยารักษาวัณโรค
- Mycobacterium avium complex :
ให้ใช้ยาอย่างน้อย 2 ชนิดในการรักษา
คือ clarithromycin รับประทานวันละ 2
ครั้ง ครั้งละ 500 มก. ร่วมกับ ethambutol
15 มก./กก./วัน
ไปตลอดหรือจนกว่าภูมิต้านทานดีขึ้นหลังการให้ยาต้านไวรัสเอดส์ นอกจากนี้สามารถใช้ azithromycin ในขนาด 500 มก. แทน clarithromycin
ได้
ในรายที่ตรวจไม่พบ pathogen
ควรให้ยากลุ่ม norfloxacin ขนาดเม็ดละ 400 มก. รับประทานครั้งละ 1 เม็ด
วันละ 2 ครั้ง นาน 7 วันไปก่อน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้ตรวจอุจจาระใหม่
และให้ metronidazole ขนาดเม็ดละ 500 มก.
รับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหาร วันละ 3 ครั้ง นาน 7 วัน
ในกรณีที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้
และอาการไม่ดีขึ้น ให้พิจารณาใช้ antimotility drugs เริ่มด้วย loperamide
4 มก. และให้อีก 2 มก. ทุก 4 ชม. แต่ไม่เกิน 16 มก./วัน แต่จะไม่ให้ antimotility drug ในผู้ป่วยที่ถ่ายอุจจาระปนเลือด
เพราะอาจทำให้เกิด toxic megacolon
จะเห็นได้ว่ายาที่ควรใช้รักษาอาการท้องเสียในผู้ติดเชื้อ
ผู้ป่วยเอดส์นั้น จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะช่วย เพราะเป็นการท้องเสียชนิดติดเชื้อ
การนำสมุนไพรมาใช้ จึงจำเป็นต้องมีฤทธิ์
1. ลดการบีบตัวของลำไส้
2. ฆ่าเชื้อจุลชีพที่เป็นสาเหตุของการท้องเสีย